ทำไมการสร้างบ้านจึงเกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อน

Last updated: 22 Aug 2025  |  1248 Views  | 

ทำไมการสร้างบ้านจึงเกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อน

หลายคนอาจมองว่าการสร้างบ้านเป็นเรื่องส่วนตัว อยู่แค่รั้วบ้านเรา แต่ความจริงแล้วทุกขั้นตอนตั้งแต่ “การเลือกวัสดุ” จนถึง “การใช้งาน” มีรอยเท้าคาร์บอน (Carbon Footprint) แฝงอยู่ ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต การขนส่ง การใช้งาน และการกำจัดหลังใช้งาน
ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ปล่อย “ก๊าซเรือนกระจก” ออกสู่ชั้นบรรยากาศ ทำให้โลกกักเก็บความร้อนมากขึ้น เป็นสาเหตุทำให้เกิด ภาวะโลกร้อน 

 

1. วัสดุก่อสร้างคือแหล่งปล่อยคาร์บอนขนาดใหญ่

  • ปูนซีเมนต์ : การเผาหินปูนเพื่อทำปูนปล่อย CO โดยตรงจากปฏิกิริยาเคมี และจากการเผาเชื้อเพลิง (คิดเป็น 8% ของการปล่อย CO ทั่วโลก)
  • เหล็กและอะลูมิเนียม : ใช้ความร้อนสูงมากจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ปล่อย CO และก๊าซมีเทน
  • อิฐเผา/กระเบื้องดินเผา : เผาด้วยฟืนหรือถ่านหิน ปล่อยก๊าซเรือนกระจกและฝุ่น PM2.5
  • ไม้จากการตัดป่าธรรมชาติ : นอกจากลดพื้นที่ดูดซับ CO ของโลกแล้ว ยังปล่อยคาร์บอนที่เก็บสะสมในเนื้อไม้สู่บรรยากาศเมื่อผ่านการเผา และการย่อยสลาย

 

2. การขนส่งวัสดุ = การเดินทางของคาร์บอน

  • วัสดุหนัก เช่น คอนกรีต เหล็ก ต้องใช้พลังงานขนส่งสูง จะปล่อย CO, NOx, และ PM2.5
  • ปล่อยไอเสียจากการขนส่ง ทำให้เพิ่มรอยเท้าคาร์บอนโดยไม่จำเป็น

 

3. การใช้งานและอายุการใช้งาน

  • บ้านที่ใช้วัสดุเป็นฉนวนกันความร้อนไม่ดี ทำให้ต้องใช้พลังงานทำความเย็น/ความร้อนมากขึ้น ทำให้เป็นการปล่อยคาร์บอนอย่างต่อเนื่อง
  • วัสดุมีอายุสั้นหรือเสื่อมสภาพเร็ว ทำให้ต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนบ่อย และผลิตวัสดุใหม่ซ้ำๆ ทำให้ปล่อยคาร์บอนเพิ่มตลอดอายุบ้าน

 

4. การรื้อถอนและจัดการซากวัสดุ

  • ขยะก่อสร้างจากการรื้อบ้านหรือรีโนเวทมักถูกเผา ทำให้ปล่อย CO และสารพิษ
  • ฝังกลบวัสดุอินทรีย์ จะเกิดก๊าซมีเทน (CH) ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้โลกร้อนได้เช่นกัน

 

5. ผลกระทบโดยรวม

  • การก่อสร้างทั่วโลกปล่อย CO มากกว่า 1 ใน 3 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด
  • ทำให้โลกร้อน อุณหภูมิสูงขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น เกิดสภาพอากาศแปรปรวนสุดขั้ว

 

6. ผลกระทบต่อธรรมชาติ

  กระบวนการผลิตที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง

เช่น การผลิตปูนซีเมนต์, เหล็ก, อิฐเผา จะปล่อย CO และความร้อนสูง เพิ่มปัญหาโลกร้อน กระตุ้นให้เกิดภัยจากสภาพอากาศสุดขั้ว (พายุ ฝนหนัก ภัยแล้งรุนแรง)

  การใช้วัสดุที่ขัดขวางการซึมของน้ำ

การปูคอนกรีต/ยางมะตอยเต็มพื้นที่ในเมือง   น้ำฝนซึมลงดินไม่ได้   น้ำท่วมฉับพลันบ่อยขึ้น

  การใช้วัสดุที่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ

เช่น การตัดไม้จากป่าธรรมชาติอย่างไม่มีการปลูกทดแทน   ทำให้ป่าเสื่อมโทรม, ดินขาดการยึดเกาะ, เกิดน้ำป่าและดินถล่มง่ายขึ้น

 

7. ทางออก - บ้านที่ไม่ทำร้ายโลก

  • เลือกวัสดุ Low Carbon เช่น ไม้จากป่าปลูก, ไม้ไผ่, เหล็กรีไซเคิล, คอนกรีตผสมเถ้าลอย
  • เลือกใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อนได้ดี เช่น วัสดุไม้ ฝ้าไม้
  • ออกแบบบ้านประหยัดพลังงาน เช่น ใช้ฉนวนกันร้อน ช่องแสงธรรมชาติ, ระบบระบายอากาศ
  • เลือกใช้วัสดุที่มีอายุการใช้งานยาวนาน โดยไม่ต้องรื้อทิ้ง
  • วางแผนใช้วัสดุทนทานและรีไซเคิลได้ เพื่อยืดอายุการใช้งานและลดขยะก่อสร้าง

 

บทสรุป

การสร้างบ้านไม่ได้จบลงเมื่อผู้รับเหมาก่อสร้างเสร็จ แต่มันคือ “การเดินทางของคาร์บอน” ตั้งแต่การผลิตวัสดุจนถึงการรื้อถอนในอนาคต การตระหนักถึงรอยเท้าคาร์บอนของบ้านเราจึงเป็นก้าวสำคัญในการช่วยลดภาวะโลกร้อน เพราะบ้านที่ดี…ต้องลดรอยเท้าคาร์บอน ไม่เพียงทำให้ผู้อยู่อาศัยสบายขึ้น แต่ยังคืนความสมดุลให้กับสิ่งแวดล้อมด้วย

 

The Urban Wood เชื่อว่า “ไม้จริง” คือวัสดุที่ตอบโจทย์ทั้ง ความงาม และ ความยั่งยืน

 มาจากแหล่งไม้ที่รับผิดชอบ ไม่ทำลายป่าธรรมชาติ

 เก็บกักคาร์บอนในเนื้อไม้ตลอดอายุการใช้งาน

 ใช้งานได้นาน ดูแลรักษาได้ง่าย นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ลดการทิ้งขยะและการผลิตซ้ำ


เพราะบ้านหนึ่งหลัง…ไม่ควรทำร้ายโลกที่เราทุกคนต้องอยู่ร่วมกัน เลือกไม้จริงที่ใส่ใจโลก เลือก The Urban Wood

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  and  นโยบายคุกกี้